สมัครบาคาร่า
บาคาร่าไม่มีขั้นต่ำ

บาคาร่าไม่มีขั้นต่ำ คืออะไร ?

บาคาร่าไม่มีขั้นต่ำ สำหรับเกมเดิมพันบาคาร่าเป็นรูปแบบเกมที่เล่นง่ายและได้เงินไวที่สำคัญคือสำหรับการเข้าใช้บริการ แทงบาคาร่าไม่มีขั้นต่ำ ในปัจจุบันสามารถเข้าถึงได้สะดวกเพราะวงการบาคาร่าเติบโตอย่างรวดเร็ว เว็บของเราเป็นหนึ่งในเว็บบาคาร่าที่ดีที่สุด เพราะได้รับรางวัลในด้านบริการมากมายทั้งยังได้รับมาตรฐานสากลในเรื่องเว็บพนันที่ปลอดภัยเพราะเป็น “เว็บตรง” ความปลอดภัย 100% ถูกต้อง ไม่มีหักเปอร์เซ็นต์ และพัฒนาอย่างต่อเนื่องและปัจจุบันมีเว็บเดิมพันบาคาร่าเกิดขึ้นมากมายในแต่ละเว็บก็จะแตกต่างในรูปแบบการให้บริการกันออกไปแต่เรามั่นใจว่าไม่มีที่ไหนเหมือนเราเริ่มต้นเดิมพัน เว็บบาคาร่าไม่มีขั้นต่ำ ซึ่งแน่นอนเราคือผู้เริ่มต้นในราคานี้เพราะต้องการให้ผู้เล่นทุกท่านเข้าถึงบริการเว็บที่ดีแบบงบประหยัดแต่สามารถทำกำไรได้ถึงหลักล้าน

              ด้วยการ เดิมพันบาคาร่าไม่มีขั้นต่ำ มีรูปแบบการเล่นที่มีความคล้ายกับ ไพ่ป๊อกเด้ง แต่มีกฎกติกาที่แตกต่างกันนิดหน่อย เพราะ Baccarat สามารถเลือกลงเงินเดิมพันได้ทั้ง 2 ฝั่ง คือ เพลเยอร์ และ แบงค์เกอร์ และยังมีรูปแบบให้เลือกเดิมพันอีก 5 รูปแบบ คือ เดิมพันทายผลเสมอ ( TIE ) , เดิมพันทายผลไพ่คู่ฝั่งเพลย์เยอร์ , เดิมพันทายผลไพ่คู่ฝั่งแบงค์เกอร์ ,  เดิมพันทายผลเพลย์เยอ์ไพ่ป๊อก , เดิมพันทายผลแบงค์เกอร์ไพ่ป๊อก รูปแบบทั้งหมดนี้ท่านสามารถเลือกเดิมพันได้บนเว็บไซต์ของเรา

บาคาร่าไม่มีขั้นต่ำ ข้อดีบาคาร่าออนไลน์

สำหรับบาคาร่าออนไลน์หรือเรียกได้ว่าบาคาร่าที่กำลังมาแรง เป็นเกมที่ใช้เวลาเล่นต่อรอบน้อยมากใช้เวลาเพียงไม่ถึงนาทีและกฎกติกาของเกมง่ายมากไม่ซับซ้อน แม้แต่มือใหม่ก็สามารถทำความเข้าใจได้ทันทีไม่ต้องมีการบวกเลขหรือคำนวณใด ให้ปวดหัวไม่ต้องมีการรอวางเดิมพัน สามารถเลือกแทงหรือวางเดิมพันได้เลยไม่ต้องทำการแจกไพ่หลายใบ ใช้ไพ่มากสุดเพียงแค่ 3 ใบ ต่อหนึ่งฝ่ายด้วยเหตุที่กล่าวจึงเป็นเกมที่ทั่วโลกให้ความสนใจและชื่นชอบตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน

วิธีเดิมพันบาคาร่าไม่มีขั้นต่ำออนไลน์

สำหรับคนที่จะวางเดิมพันเกมบาคาร่า ก็มีหน้าที่เพียงแค่เลือกฝั่งที่คิดว่าจะชนะ และวางเงินเดิมพันเท่านั้น โดยผู้วางเดิมพันปัจจุบันสามารถเลือกที่จะวางเงินได้ทั้งหมด 4 แบบ คือ

  • เลือกวางเดิมพันว่า แบงค์เกอร์ (Banker) จะมีแต้มชนะ เพลย์เยอร์ (Player)
  • เลือกวางเดิมพันว่า เพลย์เยอร์ (Player)  จะมีแต้มชนะ แบงค์เกอร์ (Banker)
  • เลือกวางเดิมพันว่า แบงค์เกอร์ (Banker) และ เพลย์เยอร์ (Player) จะมีแต้มออกมาเสมอกัน
  • เลือกวางเดิมพันว่า เพลย์เยอร์ (Player) / แบงค์เกอร์ (Banker) ไพ่ที่ออก   มาจะเป็นคู่

              โดยในแต่ละรูปแบบของการวางเดิมพันก็จะได้รับอัตราการจ่ายต่อรองที่ไม่เท่ากัน เดี๋ยวเราจะมาอธิบายเกี่ยวกับอัตราการจ่ายผลตอบแทนของเกมไพ่บาคาร่าในแต่ละรูปแบบกันให้ได้ทราบดังนี้

  1. การนับแต้ม บาคาร่า

        โดยทั่วไปแล้วไพ่ที่ใช้สำหรับการ เล่นบาคาร่า จะใช้ 6-8 สำรับ ( 1 สำรับมีไพ่ 52 ใบ) ซึ่งก็จะมีไพ่ที่ใช้เล่นอยู่ทั้งหมด คือ จำนวน  312-416 ใบ ซึ่งแต้มของไพ่แต่ละใบนั้น ก็จะมีวิธีการนับดังนี้

  • ไพ่ทีมีตัวเลขทั้งหมด *ยกเว้น 10 ให้นับแต้มตามเลขที่กำกับหน้าไพ่แต่ละใบ (2,3,4,5,6,7,8,9)
  • ไพ่ที่มีตัวเลข 10 ให้นับแต้มเป็น 0
  • ไพ่ที่มีเป็นอักษร *ยกเว้น A  ให้นับแต้มเป็น 0 (J,K,Q)
  • ไพ่ที่มีเป็นอักษร A ให้นับแต้มเป็น 1
  1. กติกาบาคาร่า

            หลังจากที่เราได้ทราบกันมาได้เบื้องต้นแล้วว่า ดีลเลอร์ (Dealer) จะเริ่มทำการจ่ายไพ่ให้กับฝั่งเพลย์เยอร์ก่อน ผู้เล่น (Player)  ในใบที่ 1 จ่ายไพ่ให้กับ เจ้ามือ (Banker) ในใบที่ 2 และย้อนกลับมาจ่ายไพ่ให้กับ ผู้เล่น (Player) , เจ้ามือ (Banker) ในใบที่ 3-4 ตามลำดับ แต่ กติกาบาคาร่า Dealer  ( พนักงานแจกไพ่) สามารถที่จะทำการจั่วไพ่ใบที่ 5 และ 6 ได้ หากเข้าเงื่อนไขต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

  • Player หรือ Banker ผลรวมของแต้มได้ 8 หรือ 9 : ถ้าฝั่งเจ้ามือหรือฝั่งของผู้เล่น ฝั่งใดฝั่งหนึ่งหรือทั้งสองฝั่ง เปิดไพ่มาได้แต้มรวม 8,9 (แนเชอรัล) ก็จะนำแต้มที่ได้มาทำการคำนวณผลแพ้ชนะ โดยไม่ต้องจั่วไพ่เพิ่ม
  • Player ได้ผลรวมของแต้ม 6 หรือ 7 : ฝั่งผู้เล่นไม่ต้องจั่วไพ่เพิ่ม แต่ให้ไปดูในฝั่งของทางเจ้ามือแทน

-หากเจ้ามือได้ 6 หรือ 7 แต้ม ไม่ต้องจั่ว ตัดสินให้ผลเป็นเสมอ

-หากเจ้ามือได้ 0 ถึง 5 แต้ม เจ้ามือจั่วไพ่ 1 ใบ จากนั้นค่อยไปคำนวณผลแพ้ชนะ

  • Player ได้ผลรวมของแต้ม 0 ถึง 5 : ฝั่งผู้เล่นจะได้จั่วไพ่ 1 ใบ โดยหลังจากที่ทางฝั่งของผู้เล่นมีการจั่วไพ่แล้วก็จะมี กฎบาคาร่า เพิ่มเติมสำหรับฝั่งเจ้ามือว่าจะต้องจั่วไพ่ด้วยหรือไม่ต้องจั่วไพ่ ก็จะต้องดูแต้มจากไพ่ 2 ใบในมือฝั่งเจ้ามือก่อน ตามเงื่อนไขนี้

-Banker มีแต้ม 0 ถึง 2 ให้เจ้ามือทำการจั่วไพ่ได้ 1 ใบ

-Banker มีแต้ม 3 ฝั่งของเจ้ามือก็จะสามารถจั่วไพ่ได้ 1 ใบ (แต่แต้มรวมของผู้เล่นต้องไม่เท่ากับ 3)

-Banker มีแต้ม 4 ฝั่งของเจ้ามือก็จะสามารถจั่วไพ่ได้ 1 ใบ (แต่แต้มรวมของผู้เล่น ต้องอยู่ระหว่าง 2-7 )

-Banker มีแต้ม 5 ฝั่งของเจ้ามือก็จะสามารถจั่วไพ่ได้ 1 ใบ (แต่แต้มรวมของผู้เล่น ต้องอยู่ระหว่าง 4-7 )

-Banker มีแต้ม 6 ฝั่งของเจ้ามือก็จะสามารถจั่วไพ่ได้ 1 ใบ (แต่แต้มรวมของผู้เล่น ต้องอยู่ระหว่าง 6-7 )

-Banker มีแต้ม 7 ในกรณีนี้ทางฝั่งของเจ้ามือไม่ต้องจั่วไพ่

บทความที่น่าสนใจ : บาคาร่า5บาท